น้ำมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช

21 เม.ย.

การให้น้ำต้นไม้ก็สำคัญถ้าให้น้ำมากเกินน้อยเกินหรือไม่ถูกวิธี อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์พืช ดิน สภาพแวดล้อม อย่างเช่น ในร่มหรือกลางแจ้ง มีลมพัดผ่านมั้ย อุณหภูมิเท่าไร ช่วงฤดูกาลไหน บางครั้งพืชได้รับน้ำน้อยเกินไปก็ทำให้ใบเหี่ยว เนื่องจากน้ำในดินมีไม่เพียงพอให้รากดูดไปเลี้ยงลำต้น เห็นได้ชัดเจนช่วงใกล้เที่ยงถึงบ่าย 3 ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดทำให้พืชคายน้ำมาก เมื่อใบคายมากรากก็ต้องดูดมาทดแทนให้เกิดสมดุลไม่ให้ใบพืชเหี่ยว
แต่บางครั้งน้ำในดินมากเกินไปจนเต็มช่องว่างของเม็ดดิน ทำให้อากาศในดินถูกแทนที่จนเกิดน้ำขัง ไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโต ขาดออกซิเจน รากพืชไม่มีอากาศหายใจ แค่ 2-3 วันต้นพืชก็แสดงอาการเหี่ยวหรือตายทั้งๆที่ไม่ขาดน้ำ ในทางกลับกันหากให้รับน้ำน้อยเกินไปก็ทำต้นเหี่ยวได้เช่นเดียวกัน การให้น้ำควรรดที่โคนต้นแทนการฉีดพ่นทางใบ เป็นไปได้ควรพรวนดินให้ฟูก่อนรดน้ำ ทำให้ดินซับน้ำได้ดี ป้องกันการชะล้างหน้าดิน ส่งผลให้รากพืชลอยและเหี่ยวแห้งได้ง่าย
การนำโพลิเมอร์มาใช้ปลูกพืชเพื่อประหยัดน้ำ โดยไม่ต้องฮ้อน้ำฝนหรือค่อยรดบ่อยๆ ยิ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งแล้วนั้นก็ยิ่งช่วยยืดอายุการให้น้ำ ลดการเหี่ยวเฉา เนื่องจากสารดังกล่าวสามารถดูดซับน้ำได้ไม่น้อยกว่า 200 เท่า ทำให้ดินชุ่มชื้นต้นพืชเจริญเติบโตต่อไปได้แม้เป็นหน้าแล้ง เพียงแค่นำโพลิเมอร์ 1 กิโลกรัมไปแช่น้ำ 150 ลิตรทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง เมื่อดูดซับน้ำเต็มที่แล้ว จากนั้นนำมาผสมวัสดุหรือรองก้นหลุมปลูก ช่วงหน้าแล้งดินก็จะดูดซับน้ำจากโพลิเมอร์เพิ่มความชื้นให้แก่ราก แต่เมื่อดินได้รับน้ำเพิ่มเข้ามาโพลิเมอร์ก็จะทำหน้าที่ดูดเก็บน้ำไว้ใช้ต่อยามดินแห้งวนไปเวียนมา ปีครึ่งปีอยู่ที่การย่อยสลายของจุลินทรีย์ในดิน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ 02-9861680-2
เขียนและรายงานโดย : คุณเอกรินทร์ ช่วยชู (นักวิชาการชมรมฯ)
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com
เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

ใส่ความเห็น