Archive | สารพันเห็ด RSS feed for this section

เมื่อ….ไรระบาดทำลายเส้นใยเห็ดเหลือแต่ก้อนขี้เลื่อย

29 มี.ค.

ไรเห็ดเป็นศัตรูเห็ดชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กต้องใช้แว่นขยายส่องจึงจะมองเห็นตัว บ้างก็ตัวใสบ้างก็ตัวขุ่นแตกต่างตามชนิดกันไป รวมเป็นกลุ่มกระจายทั่วบริเวณที่มีเส้นใย ที่สำคัญสัตว์จำพวกนี้วงจรชีวิตสั้นแค่เพียง 4-5 วันเท่านั้น ทั่วไปพบตัวเมียมากกว่าตัวผู้ประมาณ 4 เท่า ขยายพันธุ์โดยการออกไข่-ฟักเป็นตัว บ้างครั้งไม่จำเป็นต้องผสมพันธุ์ก็ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไรระบาดทำลายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงที่เส้นใยเห็ดกำลังเดิน ทำให้เส้นใยขาดไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ ที่สำคัญสามารถระบาดได้ทุกชนิดเห็ด ต่างกันที่ชนิดของไรเท่านั้นเอง มักจะเข้าทำลายเส้นใยเห็ดที่กำลังเดินในถุงพลาสติกช่วงบ่มก้อน ทำให้เส้นใยบางหรือบ้างก็กลายเป็นขี้เลื่อย ส่งผลให้ดอกแคระแกร็นไม่โต ส่วนที่ว่ามาจากไหนนั้น ปกติแล้วไรเห็ดมีอยู่ในธรรมชาติเกือบทุกที่ เพียงแต่เมื่อไหร่ ทำอย่างไรไม่ให้ไรแพร่ระบาดในโรงเห็ด ไรเห็ดสามารถเจริญเติบโตได้ดีหรือชอบบริเวณที่มีความชื้นแต่ไม่แฉะ หมักหมมนิดๆหรือสกปรกนั้นเอง

หากพบว่าระบาดแล้วเป็นเรื่องยากที่จะรักษา เนื่องจากต้องใช้สารเคมีอันตรายในการฉีดพ่น ซึ่งไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ผู้บริโภค ดังนั้นควรให้ความสำคัญหันมาป้องกันจะได้ผลดีมากกว่า วิธีที่ดีที่สุดคือรักษาความสะอาดภายในโรงเรือน เนื่องจากไรไม่ชอบความสะอาด หากระบาดช่วงเปิดดอก วิธีเดียวที่จะปลอดภัยต่อผู้ใช้ผู้บริโภคคือให้ใช้จุลินทรีย์กำจัดร่วมกับสมุนไพร จุลินทรีย์ที่ว่านี้คือบาซิลลัส-ไมโตฟากัส ก่อนนำจุลินทรีย์ชนิดนี้มาใช้แนะนำให้ขยายเชื้อด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน1ลูก หรือนมกล่องรสหวาน1กล่อง ต่อหัวเชื้อ 5-10กรัมหรือ1-2ช้อนชา ทิ้งไว้ 1คืน หลังจากนั้นค่อยนำมาผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วก้อนสัปดาห์ละ 2ครั้ง ส่วนสมุนไพรที่นำมาใช้ร่วมอาจใช้ใบน้อยหน่า 1 กิโลกรัม โขลกให้ละเอียดกรองเอาแต่น้ำนำมาผสมเจือจางกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นร่วมกันหรือสลับให้ทั่วก้อนเห็ด เท่านี้ก็สามารถช่วยลดการระบาดของไรเห็ดได้ในระดับหนึ่ง เกษตรกรท่านใดที่กำลังเพาะเห็ดอยู่ แล้วมีปัญหาไรระบาดทำลายก้อนเห็ด แก้ไม่ตกโทรปรึกษาได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ (02-9861680 -2)หรือ 081-3983128 (คุณเอกรินทร์

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชม email : thaigreenagro@gmail.com

ผลดี-ผลเสียของอุณหภูมิความชื้นที่เปลี่ยนแปลงในโรงเรือนเปิดดอกเห็ดนางฟ้า

21 มี.ค.

เห็ดนางฟ้าเป็นเห็ดที่นิยมเพาะเลี้ยงกันมาก เนื่องจากเลี้ยงง่าย ซื้อขายง่าย ราคาไม่แพง แต่ก็เจอปัญหามากที่สุดเพราะเห็ดชนิดนี้ชอบอากาศเย็นชื้นประมาณ 20-30 ?c แต่กลับกันหน้าร้อนทุกวันนี้สูงขึ้น 36-40 ?c หรืออาจสูงกว่า อุณหภูมิสูงขึ้นเห็ดออกดอกน้อย ต่างจากหน้าฝนหรือหน้าหนาว มีเห็ดนางฟ้า 3,000 ก้อน เก็บผลผลิตได้ 30-40 กิโลกรัมต่อวัน แต่หน้าร้อนลดเหลือแค่วันละ10 กิโลกรัมหรือไม่ถึง ทำให้สูญเสียรายได้และยิ่งกว่านั้นบางรายต้องซื้อก้อนมาเปิดดอกก็ยิ่งทำให้ขาดทุนกันไปใหญ่

อุณหภูมิความชื้นภายในโรงเปิดดอกถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการเจริญของเส้นใยดอกเห็ดอย่างยิ่ง ยิ่งเป็นเห็ดนางฟ้าแล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 20-30 ?c ซึ่งจะได้ดอกเห็ดที่มีขนาดใหญ่ได้น้ำหนัก ผลผลิตมาก แต่หากอุณหภูมิต่ำกว่า 15 ?c หรือสูงกว่า 35 ?c เห็ดชนิดนี้จะไม่ออกดอก กรณีที่ก้อนเห็ดได้รับอุณหภูมิต่ำกว่า 20 ?c บ้างเวลาช่วงสั้นๆ เวลากลางคืน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดดอกได้ดีอีกทางหนึ่ง ความชื้นก็สำคัญไม่น้อยกว่ากันเท่าใดนัก โดยเฉพาะช่วงเปิดดอกต้องอาศัยโรงเรือนที่เก็บความชื้นได้ดี และความชื้นที่เหมาะสมไม่ควรต่ำกว่า 80 % เนื่องจากความชื้นเป็นตัวแทนของน้ำที่มีผลโดยตรงกับการออกดอกของเห็ด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร. 02-9861680-2 หรือ 081-3983128 (เอกรินทร์)

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชม email : thaigreenagro@gmail.com

บทความเกษตร”เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง เห็ดจึงไม่ออกดอก”

18 มี.ค.

บทความเกษตร”เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง เห็ดจึงไม่ออกดอก”
มีนา-เมษาของทุกปีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเห็ดต้องประสบปัญหาเห็ดไม่ออกดอกหรือออกน้อย ผลผลิตลดลง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอากาศที่ร้อนขึ้นในช่วงนี้ อุณหภูมิที่สูงเกินไปส่งผลให้เห็ดไม่ออกดอกโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน,นางรมฮังการี ซึ่งโดยปกติช่วงอากาศร้อนเห็ดก็ไม่ค่อยออกดอกอยู่แล้ว แต่หากร้อนเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้เห็ดหยุดการเจริญเติบโต ไม่สร้างเส้นใย ไม่เดิน ส่งผลให้เห็ดไม่ออกดอกเหมือนปกติ เนื่องจากอากาศร้อนและความชื้นน้อยควบคุมไม่ได้

เห็ดนางฟ้าภูฐานเป็นเห็ดที่นิยมเพาะเลี้ยงกันมาก เนื่องจากเลี้ยงง่าย ซื้อขายง่าย ราคาไม่แพง แต่ก็เจอปัญหามากที่สุดเพราะเห็ดชนิดนี้ชอบอากาศเย็นชื้นประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส แต่กลับกันหน้าร้อนเมืองไทยทุกวันนี้อุณหภูมิอยู่ประมาณ 36-40 องศาเซลเซียสหรือบางวันอาจสูงเกินนั้น อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้เห็ดไม่ออกดอก ออกดอกน้อย ทำให้ผลผลิตต่างจากหน้าฝนหรือหนาวโดยสิ้นเชิง เห็ดภูฐาน 3,000 ก้อน ช่วงหน้าฝนหรือหนาวจะให้ผลผลิตประมาณ 30-40 กิโลกรัมต่อวัน แต่ช่วงหน้าร้อนจะลดเหลือแค่วันละ10 กิโลกรัมหรือไม่ถึง ทำให้สูญเสียรายได้และยิ่งกว่านั้นบางรายต้องซื้อก้อนมาเปิดดอกก็ยิ่งทำให้ขาดทุนกันไปใหญ่

ผู้ที่เพาะเห็ดเป็นอาชีพมายาวนานจะทราบดีว่าหน้าร้อนนางฟ้าภูฐานให้ผลผลิตน้อย จึงไม่ค่อยทำกัน เว้นระยะพักโรงไว้ทำช่วงต้นฝนเนื่องจากอากาศเริ่มเย็นลง หรือถ้าทำก็น้อยเพราะง่ายต่อการดูแล สำหรับเกษตรกรรายใหม่ก่อนเพาะเห็ดควรศึกษารายละเอียดให้ดีว่า… เห็ดชนิดไหนควรเพาะช่วงไหน? หรือเห็ดชนิดใดไม่ควรเพาะ อย่างเช่นหน้าร้อนควรเพาะเห็ดขอน เนื่องจากเป็นเห็ดที่ชอบอากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งออกดี แต่ไม่ควรเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานเพราะเป็นเห็ดที่ไม่ชอบอากาศร้อน เมื่อทราบว่าอากาศที่เหมาะสมกับเห็ดแต่ละชนิดควรเป็นอย่างไร ก็หมดปัญหาเรื่องเห็ดไม่ออกดอกให้ผลผลิตน้อยไปได้ระดับหนึ่ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680-2

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชม email : thaigreenagro@gmail.com

เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง เห็ดจึงไม่ออกดอก

18 มี.ค.

มีนา-เมษาของทุกปีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเห็ดต้องประสบปัญหาเห็ดไม่ออกดอกหรือออกน้อย ผลผลิตลดลง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอากาศที่ร้อนขึ้นในช่วงนี้ อุณหภูมิที่สูงเกินไปส่งผลให้เห็ดไม่ออกดอกโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน,นางรมฮังการี ซึ่งโดยปกติช่วงอากาศร้อนเห็ดก็ไม่ค่อยออกดอกอยู่แล้ว แต่หากร้อนเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้เห็ดหยุดการเจริญเติบโต ไม่สร้างเส้นใย ไม่เดิน ส่งผลให้เห็ดไม่ออกดอกเหมือนปกติ เนื่องจากอากาศร้อนและความชื้นน้อยควบคุมไม่ได้

เห็ดนางฟ้าภูฐานเป็นเห็ดที่นิยมเพาะเลี้ยงกันมาก เนื่องจากเลี้ยงง่าย ซื้อขายง่าย ราคาไม่แพง แต่ก็เจอปัญหามากที่สุดเพราะเห็ดชนิดนี้ชอบอากาศเย็นชื้นประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส แต่กลับกันหน้าร้อนเมืองไทยทุกวันนี้อุณหภูมิอยู่ประมาณ 36-40 องศาเซลเซียสหรือบางวันอาจสูงเกินนั้น อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้เห็ดไม่ออกดอก ออกดอกน้อย ทำให้ผลผลิตต่างจากหน้าฝนหรือหนาวโดยสิ้นเชิง เห็ดภูฐาน 3,000 ก้อน ช่วงหน้าฝนหรือหนาวจะให้ผลผลิตประมาณ 30-40 กิโลกรัมต่อวัน แต่ช่วงหน้าร้อนจะลดเหลือแค่วันละ10 กิโลกรัมหรือไม่ถึง ทำให้สูญเสียรายได้และยิ่งกว่านั้นบางรายต้องซื้อก้อนมาเปิดดอกก็ยิ่งทำให้ขาดทุนกันไปใหญ่

ผู้ที่เพาะเห็ดเป็นอาชีพมายาวนานจะทราบดีว่าหน้าร้อนนางฟ้าภูฐานให้ผลผลิตน้อย จึงไม่ค่อยทำกัน เว้นระยะพักโรงไว้ทำช่วงต้นฝนเนื่องจากอากาศเริ่มเย็นลง หรือถ้าทำก็น้อยเพราะง่ายต่อการดูแล สำหรับเกษตรกรรายใหม่ก่อนเพาะเห็ดควรศึกษารายละเอียดให้ดีว่า… เห็ดชนิดไหนควรเพาะช่วงไหน? หรือเห็ดชนิดใดไม่ควรเพาะ อย่างเช่นหน้าร้อนควรเพาะเห็ดขอน เนื่องจากเป็นเห็ดที่ชอบอากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งออกดี แต่ไม่ควรเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานเพราะเป็นเห็ดที่ไม่ชอบอากาศร้อน เมื่อทราบว่าอากาศที่เหมาะสมกับเห็ดแต่ละชนิดควรเป็นอย่างไร ก็หมดปัญหาเรื่องเห็ดไม่ออกดอกให้ผลผลิตน้อยไปได้ระดับหนึ่ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680-2

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชม email : thaigreenagro@gmail.com

บทความเกษตร”เพิ่มเงิน 5 บาท ได้เห็ดเพิ่มอีก 5 กิโลกรัม…..คุ้มสุดคุ้ม”

15 มี.ค.

บทความเกษตร”เพิ่มเงิน 5 บาท ได้เห็ดเพิ่มอีก 5 กิโลกรัม…..คุ้มสุดคุ้ม”
ความนิยมอาหารไทยในต่างประเทศเริ่มขึ้นเมื่อไรไม่รู้ แต่ที่รู้มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะต้มยำกุ้งที่มีรสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว-หวาน-เผ็ดได้อย่างลงตัวพอดี ไม่เน้นหนักรสใดรสหนึ่ง เมื่อช้อนเข้าปากแล้ว สามารถสัมผัสรสชาติความอร่อย ซึ่งยากจะบรรยาย สร้างความประทับใจแก่ผู้บริโภค และที่สำคัญกว่านั้นเครื่องเคียงที่อยู่ในต้มยำคงหนีไม่พ้นเห็ด อาจจะเป็นเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า ฯลฯ

ความหวังของเกษตรกรนอกจากโชคลาภแล้ว ก็คงไม่หวังอะไรมากไปกว่าราคาผลผลิตที่ดีๆ ไม่มีโรคแมลงมารบกวนก็เพียงพอแล้ว การเพิ่มผลผลิตเห็ดก็เช่นกัน โดยเฉพาะเห็ดนางฟ้าซึ่งเป็นที่รู้จักของตลาด ผู้คนนิยมบริโภคเพาะเป็นอาชีพเสริม อาชีพหลักสร้างรายได้กันมากขึ้นในปัจจุบัน เห็ดนางฟ้าเป็นเห็ดเศรษฐกิจที่คนไทยรู้จักกันดี รสชาติหอมอร่อย เนื้อแน่นกรอบน่ารับประทาน มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแต่มีไขมันต่ำ ปลอดภัยจากสารเคมี

ความต้องการเพิ่มผลผลิตเห็ดของเกษตรกรส่วนใหญ่มักเริ่มจากปัญหาหรือคำถามที่ว่า “เปิดดอกผ่านไป 3 เดือน ดอกเห็ดเริ่มเล็กบาง น้อยลง ไม่ได้น้ำหนัก ที่สำคัญคนซื้อหักราคา ท้ายสุดก็เลิกทำไป” ปัญหาเดิมๆ ซึ่งช่วยได้โดยฉีดพ่นอาหารเสริมเห็ดดีพร้อม ในอัตรา 20 กรัมผสมกับน้ำสะอาด 10 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 4 วัน/ครั้งหรือหลังเก็บดอกเสร็จของแต่ละวันเป็นประจำ จะทำให้ดอกใหญ่หนา สวยสด กรอบรสชาติดี ได้น้ำหนัก

D-prom-supplements.gif

นอกจากนี้ยังทำให้ก้อนเชื้อเห็ดเก็บเกี่ยวได้นานขึ้น เนื่องจากเชื้อเห็ดจะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ คือทั้งสารอาหารภายในก้อนและอาหารเสริมเห็ดดีพร้อมที่ฉีดพ่นเข้าไป ทำให้เห็ดออกดอกเยอะ โดยที่ไม่ดึงอาหารจากก้อนพร้อมๆกันมากเกินไป แต่จะได้รับจากอาหารเสริมเห็ดดีพร้อมแทน ทำให้เก็บผลผลิตได้นานขึ้น ไม่ต้องลงทุนซื้อก้อนบ่อยๆ ดอกใหญ่หนาอวบ ขายได้ราคาตรงตามความต้องการของตลาด ผู้เพาะเห็ดท่านใดต้องการเพิ่มผลผลิตหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเพาะเห็ด ปรึกษาได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680 -2

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

เพิ่มเงิน 5 บาท ได้เห็ดเพิ่มอีก 5 กิโลกรัม…..คุ้มสุดคุ้ม

15 มี.ค.

ความนิยมอาหารไทยในต่างประเทศเริ่มขึ้นเมื่อไรไม่รู้ แต่ที่รู้มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะต้มยำกุ้งที่มีรสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว-หวาน-เผ็ดได้อย่างลงตัวพอดี ไม่เน้นหนักรสใดรสหนึ่ง เมื่อช้อนเข้าปากแล้ว สามารถสัมผัสรสชาติความอร่อย ซึ่งยากจะบรรยาย สร้างความประทับใจแก่ผู้บริโภค และที่สำคัญกว่านั้นเครื่องเคียงที่อยู่ในต้มยำคงหนีไม่พ้นเห็ด อาจจะเป็นเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า ฯลฯ

ความหวังของเกษตรกรนอกจากโชคลาภแล้ว ก็คงไม่หวังอะไรมากไปกว่าราคาผลผลิตที่ดีๆ ไม่มีโรคแมลงมารบกวนก็เพียงพอแล้ว การเพิ่มผลผลิตเห็ดก็เช่นกัน โดยเฉพาะเห็ดนางฟ้าซึ่งเป็นที่รู้จักของตลาด ผู้คนนิยมบริโภคเพาะเป็นอาชีพเสริม อาชีพหลักสร้างรายได้กันมากขึ้นในปัจจุบัน เห็ดนางฟ้าเป็นเห็ดเศรษฐกิจที่คนไทยรู้จักกันดี รสชาติหอมอร่อย เนื้อแน่นกรอบน่ารับประทาน มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแต่มีไขมันต่ำ ปลอดภัยจากสารเคมี

ความต้องการเพิ่มผลผลิตเห็ดของเกษตรกรส่วนใหญ่มักเริ่มจากปัญหาหรือคำถามที่ว่า “เปิดดอกผ่านไป 3 เดือน ดอกเห็ดเริ่มเล็กบาง น้อยลง ไม่ได้น้ำหนัก ที่สำคัญคนซื้อหักราคา ท้ายสุดก็เลิกทำไป” ปัญหาเดิมๆ ซึ่งช่วยได้โดยฉีดพ่นอาหารเสริมเห็ดดีพร้อม ในอัตรา 20 กรัมผสมกับน้ำสะอาด 10 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 4 วัน/ครั้งหรือหลังเก็บดอกเสร็จของแต่ละวันเป็นประจำ จะทำให้ดอกใหญ่หนา สวยสด กรอบรสชาติดี ได้น้ำหนัก

นอกจากนี้ยังทำให้ก้อนเชื้อเห็ดเก็บเกี่ยวได้นานขึ้น เนื่องจากเชื้อเห็ดจะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ คือทั้งสารอาหารภายในก้อนและอาหารเสริมเห็ดดีพร้อมที่ฉีดพ่นเข้าไป ทำให้เห็ดออกดอกเยอะ โดยที่ไม่ดึงอาหารจากก้อนพร้อมๆกันมากเกินไป แต่จะได้รับจากอาหารเสริมเห็ดดีพร้อมแทน ทำให้เก็บผลผลิตได้นานขึ้น ไม่ต้องลงทุนซื้อก้อนบ่อยๆ ดอกใหญ่หนาอวบ ขายได้ราคาตรงตามความต้องการของตลาด ผู้เพาะเห็ดท่านใดต้องการเพิ่มผลผลิตหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเพาะเห็ด ปรึกษาได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680 -2

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

บทความเกษตร”เรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานการทำเห็ด รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

12 มี.ค.

บทความเกษตร”เรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานการทำเห็ด รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
ปัจจุบันอาชีพเพาะเห็ดเป็นอาชีพที่ผู้คนหันมาทำอย่างแพร่หลาย ทั้งทำเป็นอาชีพหลักหรือว่าทำเป็นอาชีพเสริม ทำเป็นอาชีพหลักคือกลุ่มที่ทำการลงทุนทำก้อนเชื้อเห็ดขายและเปิดดอกขายเอง และกลุ่มที่ทำเป็นอาชีพเสริมคือซื้อก้อนเห็ดสำเร็จรูปมาเปิดดอกเห็ดขาย เห็ดที่นิยมเพาะกันปัจจุบันนี้คงหนี้ไม่พ้นเห็ดนางฟ้าภูฐาน ซึ้งเป็นเห็ดที่เพาะง่ายสามารถเพาะได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย และตอนนี้ยังเป็นที่นิยมรับประทานของคนไทยทั่วทั้งประเทศ ราคาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว ตอนนี้อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 40-50 บาท ทำให้ผู้คนหันมาเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานเป็นอาชีพเสริมกัน ทางทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษรู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องผู้เพาะเห็ดรายใหม่ๆที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการทำเห็ดโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคและแมลงศัตรูของเห็ดที่ผู้เพาะเห็ดบางรายยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ทำให้เห็ดเกิดปัญหาขึ้นมาลุกลามใหญ่โตจนยากจะแก้ไขแล้วค่อยโทรมาปรึกษากับทางนักวิชาการของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ทางทีมงานจึงอยากแนะนำข้อมูลเกี่ยวปัญหาเบื้องต้นของการทำเอาชีพเพาะเห็ดได้ศึกษาข้อมูลก่อนนำไปปฏิบัติ
mooshroom_20091008.gif

ปัญหาเรื่องโรคเกี่ยวกับเห็ดก็จะมี เชื้อราเขียว ราดำ ราส้ม ราเมือก ซึ่งปัญหาเชื้อราเกี่ยวกับเห็ดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นในโรงเรือนเห็ดสกปกมีน้ำขังตามพื้นโรงเรือน การให้น้ำมากเกินไป หรือเกิดจากขี้เลื้อยที่ใช้ทำก้อนเห็ดเปียกชื้นทำให้มีเชื้อราติดตามด้วยประกอบกับเวลานึ่งอุณหภูมิที่ใช้นึ่งไม่ถึงเกณฑ์ทำให้เชื้อราที่มาที่เลื้อยไม่ตายทำให้เวลานำก้อนเห็ดมาเปิดดอกแล้วมีปัญหาเรื่องเชื้อราก็เป็นไปได้ ต่อมาเป็นเรื่องแมลงในโรงเรืองเห็ด แมลงที่สร้างปัญหาให้กับผู้เพาะเห็ดก็จะมีที่หนักๆเลยแมลงหวี่ในโรงเรือน หนอนในก้อนเห็ดและก็ไรดำ ไรไข่ปลาในก้อนเห็ด ซึ่งปัญหาเหล่านี้สาเหตุหลักก็คือโรงเรือนไม่สะอาด มีความชื้นมีน้ำขังในโรงเรือนทำให้มีแมลงหวี มีไรเข้ามาที่โรงเรือนได้ ซึ่งถ้ามีแมลงหวี่ในโรงเรือนแล้วปัญหาที่ตามมาก็คือปัญหาเรื่องหนอน เพราะแมลงหวี่จะไข่ไว้ที่ก้อนเห็ดแล้วเกิดเป็นหนอนในก้อนเห็ดแล้วกัดกินเส้นใยเห็ดทำให้เห็ดเน่าเสีย เห็ดไม่ออกดอกสุดท้ายก็ต้องทิ้งก้อนไป ต่อไปเป็นเรื่องของอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในโรงเรือนเห็ดอุณหภูมิที่เหมาะกับการเพาะเห็ดควรอยู่ที่ประมาณ 28-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ในโรงเรือนอยู่ที่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารักษาอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ไม่ได้ตามนี้จะทำให้เห็ดมีปัญหาเรื่องไม่ค่อยออกดอก ผลผลิตต่ำ นี่ยังไม่รวมปัญหาเกี่ยวกับผู้เพาะเห็ดรายใหม่ไปซื้อก้อนเห็ดที่ไม่ค่อยมีคุณภาพมา(ซื้อกับเจ้าที่เห็นว่าราคาถูก) ทำให้เห็ดที่ซื้อมาไม่ค่อยออกดอกหรือออกมาหน้าสองหน้าแล้วก็ไม่ออกอีกเลย ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทางผู้เขียนคาดว่าผู้เพาะเห็ดรายใหม่ๆน่าจะประสบกับปัญหาเหล่านี้บ้างไม่มากก็น้อย แต่อาจยังไม่รู้วิธีสังเกตุอาการของโรคและแมลงเนื่องจากเป็นมือใหม่ มารู้อีกทีว่าเจอปัญหาก็ก้อนเห็ดเสียหายไปมากแล้ว ทางผู้เขียนและชมรมเกษตรปลอดสารพิษมีความเป็นห่วงว่าผู้ที่หันมาเพาะเห็ดเป็นอาชีพยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเพาะเห็ด จึงอยากให้ผู้ที่จะหันมาทำอาชีพเพาะเห็ดทั้งที่ทำเป็นอาชีพหลักหรือทำเป็นอาชีพเสริมควรศึกษาข้อมูลการเพาะเห็ด โรคแมลงศัตรูเห็ด การดูแลรักษา เผื่อว่าเวลาเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเพาะเห็ดจะได้แก้ไขปัญหานั้นๆได้ทันท่วงที

โทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-9861680-2

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

บทความเกษตร”โอ่งจ๊ะ….โอ่งราช…รี เพาะเห็ดได้”

11 มี.ค.

บทความเกษตร”โอ่งจ๊ะ….โอ่งราช…รี เพาะเห็ดได้”
สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้คนตกงานมากขึ้น จากพิษค่าแรง ค่าครองชีพ ที่ปรับตัวสูงตามนโยบายทุนนิยมของรัฐบาล โรงงานขนาดเล็กปรับตัวไม่ทันก็ต้องปิดตัว แม้แต่ตัวเกษตรกรเองที่ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์หลายรายประสบปัญหาขาดทุนเนื่องจากผลผลิตราคาตกต่ำไม่แน่นอน ต่างก็หันหาอาชีพเกษตรกรรมอื่นที่ทำได้เร็ว ลงทุนน้อย ซึ่งหนึ่งในอาชีพยอดนิยมที่สร้างรายได้เร็วคือเพาะเห็ดขาย โดยเฉพาะเพาะเห็ดในโอ่งไม่ต้องอาศัยโรงเรือนที่ใช้พื้นที่กว้างๆ เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน ซึ่งทำง่ายลงทุนไม่สูงมากนัก

ต่างก็ทราบดีว่าการเพาะเห็ดในโอ่งใช้แรงงานน้อย ต้นทุนต่ำ ที่สำคัญทำคนเดียวได้ เห็ดที่เกษตรกรนิยมเพาะส่วนเป็นเห็ดนางฟ้า นางรม ภูฐาน ซึ่งหาซื้อก้อนเชื้อง่าย เป็นเห็ดตลาดขายง่ายราคาไม่สูงมาก ที่สำคัญไม่ต้องสร้างโรงเรือนให้ยุ่งยาก แต่หากต้องการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ต้องตรวจสอบตลาดให้ดีเสียก่อน แต่สำหรับเพาะเพื่อบริโภคในครัวเรือนแบบเศรษฐกิจพอเพียง ก็ช่วยลดความยุ่งยาก ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงเรือน อีกทั้งนำวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีกด้วย

เริ่มต้นจากหาวัสดุเหลือใช้อย่างโอ่งแตก โอ่งร้าว ใช้เป็นโรงเรือนจำลอง วางไว้ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา เมื่อได้โรงเรือนแล้วก็หาซื้อก้อนเชื้อเห็ดที่ต้องการเพาะมาวางเปิดดอก นำกระสอบป่านหรือแสลนสีดำ พ่นให้น้ำเป็นฝอยเช้า-กลางวัน-เย็นให้ความชื้นแก่ก้อน ปิดปากโอ่งไว้ ประมาณ 1 สัปดาห์ก็เริ่มเห็นตุ่มสีขาวเล็กๆ เกิดขึ้นหน้าก้อน ช่วงนี้ต้องระวังอย่าให้ดอกเห็ดโดนน้ำมากเกินไป ไม่เช่นนั้นดอกจะฝ่อเน่า แต่ยังต้องพ่นน้ำให้ความชื้นอยู่ทุกวันเหมือนเดิม ทำแค่นี้ก็มีเห็ดให้ทานตลอด ไม่ต้องซื้อ เพาะง่ายสะอาดปลอดภัย รสชาติหวานกรอบอร่อย เพราะเก็บสดๆ แบบวันต่อวัน ดอกเห็ดรุ่นๆหนึ่งใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน

ที่สำคัญ1-3 วันแรกๆอย่าให้อุณหภูมิในโอ่งร้อน ถ้าร้อนเกินไปให้เปิดกระสอบป่านเพื่อระบายอากาศออก ส่วนน้ำที่ใช้รดก้อนเชื้อเห็ดต้องเป็นน้ำที่จืด pH เป็นกลาง ไม่ควรมีคลอรีนเจือปน เนื่องจากน้ำกร่อยหรือเค็มจะทำให้เห็ดไม่ออกดอก หากเป็นน้ำประปาก็ควรผ่านการขจัดคลอรีนแล้ว (รองน้ำประปาตากแดดทิ้งไว้ 2 วัน) ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680-2

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

โรงเรือนเห็ดอากาศร้อน ต้นกล้วย ช่วยได้

26 ก.พ.


เห็ดที่ไม่ชอบอากาศร้อนมากอย่างเห็ดนางรม นางฟ้า ภูฐาน ฮังการี ฯลฯ เมื่อสภาพอากาศบางช่วงมีความร้อนสูงมากเนื่องด้วยอาจจะเพาะปลูกโรงเรือนไว้กลางแจ้ง ไม่มีร่มเงาที่คอยช่วยระบายถ่ายเทอากาศลดอุณหภูมิให้ผ่อนคลายบรรเทาเบาบางลง อีกทั้งปัญหาภาวะโลกร้อนที่นำมาซึ่งการให้อุณหภูมิมีความร้อนสูงเพิ่มขึ้นไปอีกโดยเฉพาะในเดือนมีนา-เมษาที่จะถึงในอีกไม่นานนี้ จะส่งผลทำให้เห็ดที่ไม่ชอบอากาศร้อนมีปัญหาการให้ดอกและเพิ่มผลผลิต หรือแม้กระทั่งคนก็อาจจะมีสภาพความเครียดสูงเมื่อมีอากาศร้อนโดยเฉพาะเดือนเมษายนปีนี้ (2556) ที่เมียนมาร์ (พม่า) จะหยุดจ่ายก๊าซมายังประเทศไทยด้วยเหตุผลปิดซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซจนทำให้รัฐบาลต้องออกมารณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนรีบช่วยกันใช้พลังงานแบบประหยัด มิฉะนั้นอาจจะต้องมีไฟดับไม่หนึ่งหรือสองวันในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ เห็นมั้ยครับ…ความร้อนทำให้มนุษย์เดือดร้อนและเครียดได้เช่นเดียวกันแล้วนับประสาอะไรกับเห็ดที่มีสัดส่วนที่เล็กกว่า !?!?

เกษตรกรผู้เพาะเห็ดควรปลูกพืชรอบๆอาคารโรงเรือนหรือย้ายให้อยู่ใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่หรือในสวนไม้ผลไม้ยืนต้นเพื่อช่วยลดความร้อนแบบธรรมชาติ ร่มเงาของต้นไม้จะช่วยทำให้บรรยากาศโดยรอบนั้นเย็นลงไปโดยปริยาย ยิ่งทำโรงเรือนแบบง่ายๆ สไตล์ประหยัดเพียงแค่ใช้แสลนขึงรอบพันเหล็กฉากเหล็กแป๊ป และขนาดกะทัดรัดไม่ต้องใหญ่มากสามารถย้ายไปตามจุดหรือที่ต่างๆได้ง่าย เมื่อนำไปวางไว้ในสวนจะช่วยทำให้ต้นไม้บริเวณรอบๆโรงเรือนมีการเจริญเติบโตที่ดีไปด้วยเนื่องจากการรดน้ำดูแลเห็ดความชื้นและสารอาหารส่วนเกินต่างๆก็จะไหลเล็ดรอดไปยังต้นไม้ที่อยู่รอบๆหรือใกล้เคียง

ในกรณีที่ปลูกเป็นโรงเรือนใหญ่แล้วไม่สะดวกในการเคลื่อนย้ายอีกทั้งยังมีปัญหาแก้ไขเรื่องความร้อนไม่ตก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแสลนจากชายขอบด้านข้างขึ้นมาประมาณหนึ่งฝ่ามือหรือจะมีการเปิดประตูด้านหน้าด้านหลังเพื่อระบายอากาศในช่วงเที่ยงวันที่อากาศร้อนจัดก็ยังไม่สามารถที่จะช่วยลดอุณหภูมิให้เย็นลงมาอยู่ในจุดที่เห็ดต้องการ ก็ควรต้องแก้ไขด้วยการใช้พืชที่ปลูกง่ายโตเร็วอย่างเช่นกล้วยเข้ามาช่วยแก้ไข ทำการปลูกไว้รอบอาณาบริเวณเมื่อสภาพต้นของกล้วยเจริญเติบโตสมบูรณ์ขึ้นก็จะช่วยระบายถ่ายเทลดอุณหภูมิโดยรอบให้เย็นลงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้ผลผลิตจากกล้วยเกือบทุกส่วนนำไปจำหน่ายสร้างได้อีกทาง

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

บทความเกษตร”เดินทีละก้าว ค้นหาสูตรสำเร็จของตัวเอง”

22 ก.พ.

บทความเกษตร”เดินทีละก้าว ค้นหาสูตรสำเร็จของตัวเอง”
เก็บดอกที่ตูมไว้อีกนิด ก่อนเก็บ 2 ชม.ไม่ควรรดน้ำเพราะจะทำให้ดอกอุ้มน้ำ ไม่มีคุณภาพขายไม่ได้ราคา ซึ่งปกติเห็ดล้นตลาดจะไม่เกิน 2-3 วัน ถ้าใจเย็นเก็บดอกตูมไว้สามารถยืดเวลาไปได้อีก โดยแช่ในห้องเย็นจะชะลอการขายได้หรือดอกบานได้ ส่วนตลาดอาจจะเริ่มจากในชุมชนท้องถิ่นก่อน โดยดูว่าในชุมชนนิยมบริโภคเห็ดอะไร ถ้าเป็นต่างจังหวัดต้องดูด้วยว่าช่วงไหนที่เห็ดป่าจะออก เนื่องจากคนต่างจังหวัดจะนิยมบริโภคเห็ดป่ามากกว่าโรงเรือนหรือเห็ดเลี้ยง ซึ่งช่วงนี้อาจจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมไปรับเห็ดป่ามาจำหน่ายแทน

การจะส่งเห็ดไปขายส่งตลาดใหญ่ๆ อย่างตลาดไท ปากคลองตลาด สี่มุมเมือง ศรีเมือง ฯลฯ นั้นหมายความว่าผู้ผลิตสามารถผลิตเห็ดได้เองหรือมีลูกฟาร์มภายใต้เยอะๆ สามารถกำหนดคุณภาพ ว่ากำหนดควบคุมราคาเองได้ง่าย อีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งสามารถกำหนดราคาที่แท้จริงเองได้ คือ ตลาดการแปรรูป ซึ่งต่างจากเห็ดสด ที่ต้องคอยพึ่งพากลไกราคาตลาดที่พ่อค้าคนกลางเป็นผู้กำหนด โดยจะรับเห็ดไปขายให้ก่อน แต่ยังไม่กำหนดราคา พอขายได้ถึงจะบอกราคาทีหลัง อย่างเช่นบอกว่า กก.ละ 12 บาท ก็ต้องขายไม่สามารถต่อรองราคาอะไรได้มาก เพราะผลผลิตออกมาทุกวัน ต้องอาศัยปริมาณมากๆ หากมองไปแล้วอาจจะไม่ได้กำไรเลยก็ได้ หรือได้แต่น้อยนิด ถ้าเพาะเองขายเองก็จะดีกว่า แต่ต้องมีบุคคลกรหรือรวมตัวตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรเพาะเห็ดแล้วแบ่งหน้าที่กันทำก็จะดีไม่น้อย

ทุกอาชีพต้องอาศัยใช้เวลาในการเรียนรู้ใหม่ๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่รู้ด้วยว่าเห็ดอะไร ช่วงไหนดอกออกเยอะ ทำไปสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ พอรู้ว่าช่วงนี้เห็ดชนิดนี้ออกเยอก็จะทำเห็ดออกน้อย พอช่วงนี้เห็ดชนิดนี้ออกดอกน้อยก็ทำให้ออกดอกเยอะ การแปรรูปเห็ดเป็นช่องทางตลาดอีกช่องหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องรีบส่งเห็ดสดขายหมด สามารถชะลอการขายออกไปได้ เป็นเดือนหรือปี ขึ้นอยู่กับว่าจะแปรรูปเห็ดเป็นผลิตภัณฑ์อะไร ดูว่าเพาะที่ไหน นิยมบริโภคอะไร เช่น แหนม ปลาร้า น้ำพริก ซอสซีอิ๊ว ฯลฯ แล้วดูผลิตภัณฑ์เหล่านี้ สามารถนำเห็ดเข้าไปเป็นส่วนผสมได้ไหม ทั้ง 100% หรือ 60% หรือแค่ 20% ยิ่งถ้าเอาเห็ดสดไปเกี่ยวข้องได้มากเท่าไร ก็ยิ่งไปรองรับเห็ดสดได้มากเท่านั้น อีกอย่างเห็ดแปรรูปสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีก 20-50% ขึ้นอยู่กับว่าจะแปรรูปเป็นอะไร อาหารคาว อาหารหวานหรือของกินเล่นได้ทั้งนั้น

เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com